Dev to webs {Coding…}

เรียนรู้การพัฒนาซอฟเวอร์ เพื่อความรู้ที่ยั่งยืน

บทที่ 2: การติดตั้ง PHP และการตั้งค่าสภาพแวดล้อม

1. ความสำคัญของการตั้งค่าสภาพแวดล้อม PHP

การติดตั้ง PHP และการตั้งค่าสภาพแวดล้อมในการพัฒนา (Development Environment) เป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นการพัฒนาโปรเจกต์ เพราะ PHP เป็นภาษาที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นการตั้งค่าสภาพแวดล้อมเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การติดตั้ง PHP ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นทำให้สามารถทดสอบและพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องออนไลน์ และยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ตามที่ต้องการได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโฮสต์เซิร์ฟเวอร์จริง


2. การติดตั้ง PHP บนระบบปฏิบัติการต่างๆ

การติดตั้ง PHP จะแตกต่างกันเล็กน้อยตามแต่ละระบบปฏิบัติการ เช่น Windows, macOS, และ Linux โดยจะยกตัวอย่างการติดตั้งบนระบบปฏิบัติการที่ใช้กันบ่อยๆ ดังนี้

2.1 การติดตั้งบน Windows ด้วย XAMPP

XAMPP เป็นโปรแกรมที่รวมเอา Apache, MySQL, และ PHP ไว้ในชุดเดียว ซึ่งทำให้การติดตั้งง่ายและสะดวก

  1. ดาวน์โหลด XAMPP: ไปที่ https://www.apachefriends.org/index.html และดาวน์โหลด XAMPP เวอร์ชันที่ตรงกับระบบปฏิบัติการ Windows
  2. ติดตั้ง XAMPP: เปิดไฟล์ติดตั้งที่ดาวน์โหลดมาและทำตามขั้นตอนที่แสดงในหน้าติดตั้ง
  3. เริ่มต้น XAMPP: เปิดโปรแกรม XAMPP Control Panel และเริ่มบริการ (Start) สำหรับ Apache และ MySQL
  4. ตรวจสอบการทำงานของ PHP: เปิดเบราว์เซอร์และไปที่ http://localhost หากเห็นหน้าจอของ XAMPP แสดงว่าติดตั้งสำเร็จแล้ว

จากนั้นสามารถสร้างไฟล์ PHP ในโฟลเดอร์ htdocs ของ XAMPP เพื่อเริ่มพัฒนาและทดสอบโค้ด PHP ได้

2.2 การติดตั้งบน macOS ด้วย MAMP

MAMP เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่รวม Apache, MySQL, และ PHP ไว้สำหรับผู้ใช้ macOS

  1. ดาวน์โหลด MAMP: ไปที่ https://www.mamp.info/en/ และดาวน์โหลด MAMP
  2. ติดตั้ง MAMP: ติดตั้ง MAMP และเปิดโปรแกรม
  3. เริ่มเซิร์ฟเวอร์: คลิกปุ่ม “Start Servers” เพื่อเริ่มต้น Apache และ MySQL
  4. ตรวจสอบการทำงานของ PHP: เปิดเบราว์เซอร์และไปที่ http://localhost เพื่อตรวจสอบการทำงาน

2.3 การติดตั้งบน Linux (Ubuntu)

สำหรับ Ubuntu สามารถติดตั้ง PHP และ Apache ได้ผ่านคำสั่ง Terminal โดยตรง

อัปเดตระบบ: เปิด Terminal และพิมพ์คำสั่งนี้เพื่ออัปเดตระบบ

sudo apt update

ติดตั้ง Apache และ PHP:

sudo apt install apache2 php libapache2-mod-php

ตรวจสอบการติดตั้ง:


ใส่โค้ด PHP ด้านล่างนี้ในไฟล์ index.php

<?php phpinfo(); ?>

เปิดเบราว์เซอร์และไปที่ http://localhost/index.php หากแสดงผลหน้ารายละเอียด PHP แสดงว่าติดตั้งสำเร็จ

3. การตั้งค่าสภาพแวดล้อมเพิ่มเติม

หลังจากติดตั้ง PHP และเซิร์ฟเวอร์เรียบร้อยแล้ว ควรปรับแต่งสภาพแวดล้อมเพื่อรองรับการพัฒนาได้อย่างราบรื่นมากขึ้น เช่น:

  • การตั้งค่าไฟล์ php.ini: ไฟล์ php.ini เป็นไฟล์กำหนดค่าการทำงานของ PHP เช่น การตั้งค่าหน่วยความจำสูงสุด (memory_limit), ขนาดไฟล์ที่อนุญาตให้อัปโหลด (upload_max_filesize) เป็นต้น
  • การติดตั้ง PHP Extensions: อาจต้องติดตั้งส่วนขยาย (Extensions) เพิ่มเติม เช่น pdo_mysql สำหรับเชื่อมต่อกับ MySQL หรือ curl สำหรับดึงข้อมูลจาก API
  • การใช้ Virtual Host: Virtual Host ช่วยให้สามารถจำลองการทำงานของโดเมนต่างๆ บนเครื่องเราเองได้ เช่น สร้าง Virtual Host สำหรับโปรเจกต์ที่ชื่อว่า myproject.local เพื่อให้สามารถเรียกดูที่ http://myproject.local ได้โดยตรง
  • การตั้งค่า Environment Variables: การตั้งค่า Environment Variables เช่น DB_HOST, DB_NAME, DB_USER, DB_PASS ในไฟล์ .env ช่วยให้โค้ด PHP อ่านค่าจากตัวแปรเหล่านี้ได้โดยตรง ทำให้ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงานได้ง่าย

4. การทดสอบและเริ่มเขียนโค้ด PHP

หลังจากตั้งค่าสภาพแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว เราสามารถเริ่มต้นเขียนโค้ด PHP และทดสอบได้ตามนี้

ตัวอย่างโค้ด PHP เบื้องต้น:

สร้างไฟล์ชื่อ test.php ในโฟลเดอร์ที่ตั้งค่าไว้ (เช่น /htdocs สำหรับ XAMPP, /Applications/MAMP/htdocs สำหรับ MAMP หรือ /var/www/html บน Ubuntu)

ใส่โค้ด PHP ในไฟล์ test.php ดังนี้:

<?php echo "ยินดีต้อนรับสู่การเขียนโปรแกรม PHP!"; ?>

เปิดเบราว์เซอร์และไปที่ http://localhost/test.php คุณควรเห็นข้อความ “ยินดีต้อนรับสู่การเขียนโปรแกรม PHP!” แสดงอยู่บนหน้าจอ


5. การนำไปใช้งานจริง

หลังจากตั้งค่าสภาพแวดล้อมในการพัฒนาเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันจริงโดยใช้ PHP ได้ เช่น:

  • สร้างเว็บไซต์แบบไดนามิก: ด้วยการตั้งค่าสภาพแวดล้อมที่รองรับการทำงานของ PHP และฐานข้อมูล เช่น MySQL สามารถพัฒนาเว็บไซต์ที่มีการเชื่อมต่อฐานข้อมูล เช่น ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) หรือระบบสมาชิกได้
  • พัฒนาและทดสอบ API: PHP เป็นที่นิยมในการสร้าง RESTful API ซึ่งสามารถทดสอบได้ในเครื่องก่อนการนำไปใช้จริงบนโฮสต์ที่ใช้งาน
  • การทดสอบและพัฒนาแอปพลิเคชันขนาดใหญ่: การตั้งค่าสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและการใช้ Virtual Host ทำให้การทดสอบโปรเจกต์ขนาดใหญ่เป็นไปได้อย่างสะดวก

6. บทสรุป

การตั้งค่าสภาพแวดล้อมในการพัฒนา PHP ที่ดี ช่วยให้การพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งบน Windows, macOS, หรือ Linux หลังจากตั้งค่าและตรวจสอบการทำงานเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มเขียนโค้ดและทดสอบโปรเจกต์จริงได้ง่ายๆ บนเครื่องของเราเอง

Comments

7 ตอบกลับไปที่ “บทที่ 2: การติดตั้ง PHP และการตั้งค่าสภาพแวดล้อม”

  1. pfPSkW hvmhp csjOi lRiEyua

  2. Если требуется автоматизированная работа, можно база форумов для хрумера скачать https://www.olx.ua/d/uk/obyavlenie/progon-hrumerom-dr-50-po-ahrefs-uvelichu-reyting-domena-IDXnHrG.html и протестировать ее.

  3. Для створення романтичного або ділового образу чудово підійдуть витончені блузки та сорочки ukrbeautystyle.com.ua. Вони додають образу елегантності та жіночності.

  4. Для комфортних прогулянок містом ідеально підійдуть зручні кросівки лайфстайл. Вони поєднують стиль та практичність для активного повсякденного життя.

  5. Я довго шукав в інтернеті хороший план внутреннего аудита пример komplaens-audit.top, і нарешті знайшов дуже зручний шаблон. Тепер робота стала простішою.

  6. Не так давно впервые воспользовался услугой маршрутка до Польши с электронным билетом, и поездка прошла идеально. Это быстрый и удобный способ оформления поездки.

  7. На нашому підприємстві нарешті почали впроваджувати комплаенс-контроль, і це вже допомогло уникнути кількох ризиків. Раджу всім взяти це на озброєння.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *